การเลือกแพลตฟอร์ม SCADA สำหรับการผลิตสมัยใหม่

ในโลกของการผลิตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กราที่จะเป็นผู้นำ ต้องการความรวดเร็ว ประสิทธิภาพที่สูง และ Real-Time monitoring ของการดำเนินงาน นี่คือที่ระบบ SCADA

ระบบ Supervisory Control and Data Acquisition (SCADA) มีบทบาทสำคัญ SCADA ได้พัฒนาจากระบบ Standalone Monitoring มาเป็นส่วนประกอบสำคัญของกลยุทธ์ Digital Transformation ในปัจจุบัน SCADA กลายเป็นลิงก์ที่สำคัญในระบบที่เชื่อมโยงกันที่เรียกว่า Unified Namespace ที่ช่วยให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นไปได้อย่างราบรื่นและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการดำเนินงาน

บทความนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยโรงงานผู้ผลิตในการเลือกแพลตฟอร์ม SCADA ที่เหมาะสมกับความต้องการ ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหา Modern SCADA เพื่อที่จะอัปเกรดจากระบบเก่า หรือหาระบบ SCADA มาใช้เป็นครั้งแรก การเข้าใจคุณลักษณะ ข้อดี และการพิจารณาแพลตฟอร์ม จะทำให้คุณสามารถเลือกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ท้ายที่สุด คุณจะมีแนวทางที่ชัดเจนในการปรับปรุงกระบวนการผลิตของคุณและการใช้ SCADA เป็นตัวกระตุ้นให้ธุรกิจเติบโต

ปัจจัยที่สำคัญในการเลือก SCADA

1. ต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO)

   • ต้นทุนเริ่มต้นเทียบกับต้นทุนระยะยาว: ระบบดั้งเดิมเช่น Genesis64 และ WinCC อาจมีต้นทุนเริ่มต้นสูงและค่าใช้จ่ายต่อเนื่องรวมถึงค่าลิขสิทธิ์ การบำรุงรักษา และการอัปเกรด ระบบสมัยใหม่เช่น Ignition และ N3URON มักมีโครงสร้างราคาที่โปร่งใสมากขึ้นด้วยต้นทุนต่อเนื่องที่ต่ำกว่า
   • ค่าธรรมเนียมแฝง: ระบบดั้งเดิมมักมีค่าธรรมเนียมแฝง เช่น ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการเพิ่มแท็ก ใบอนุญาตผู้ใช้ หรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ของบุคคลที่สาม ระบบ SCADA สมัยใหม่มักชี้แจงค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ชัดเจนกว่า

2. ความยืดหยุ่นและการขยายขนาด

   • การล็อกอินของผู้ขาย: ระบบ SCADA ดั้งเดิมมักใช้โปรโตคอลและฮาร์ดแวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ ทำให้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงในการผสานผลิตภัณฑ์จากผู้จำหน่ายรายอื่น ระบบสมัยใหม่เช่น Ignition และ N3URON รองรับโปรโตคอลและอุปกรณ์ของบุคคลที่สามได้หลากหลาย ลดการล็อกอินของผู้ขาย
   • การขยายขนาด: ระบบดั้งเดิมอาจต้องการการกำหนดค่าที่ซับซ้อนหรือใบอนุญาตเพิ่มเติมสำหรับการขยาย ระบบ SCADA สมัยใหม่มีสถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์และการขยายขนาดบนคลาวด์ ทำให้การขยายเป็นเรื่องง่ายขึ้น

3. ความง่ายในการผสานรวม

   • ความเข้ากันได้กับระบบที่มีอยู่: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งระบบ SCADA ดั้งเดิมและสมัยใหม่สามารถผสานรวมกับ PLC, HMI และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่น ระบบสมัยใหม่มักให้การสนับสนุนมาตรฐานเปิดได้ดีกว่า ทำให้การผสานรวมง่ายขึ้น
   • การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต: เลือกระบบที่สามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีและมาตรฐานใหม่ได้อย่างง่ายดาย ระบบ SCADA สมัยใหม่มักถูกออกแบบมาให้รองรับอนาคต ลดค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดในอนาคต

4. ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้และประสบการณ์การใช้งาน

   • การปรับแต่ง: ระบบดั้งเดิมอาจมีฟีเจอร์ขั้นสูงแต่ขาดส่วนต่อประสานที่ใช้งานง่าย นำไปสู่ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมที่เพิ่มขึ้น ระบบสมัยใหม่เน้นส่วนต่อประสานที่ใช้งานง่ายและปรับแต่งได้ เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
   • การฝึกอบรมและการสนับสนุน: ประเมินระดับการฝึกอบรมและการสนับสนุนที่ผู้ขายให้มา ระบบสมัยใหม่มักมาพร้อมกับทรัพยากรการฝึกอบรมที่ครอบคลุมและการสนับสนุนจากชุมชน

5. คุณลักษณะด้านความปลอดภัย

   • ความปลอดภัยทางไซเบอร์: ด้วยการเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทางไซเบอร์ การเลือกระบบ SCADA ที่มีคุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดเป็นสิ่งสำคัญ ระบบสมัยใหม่เช่น Ignition และ N3URON มักมีโปรโตคอลความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นสูง รวมถึงการอัปเดตเป็นประจำและการตรวจสอบหลายขั้นตอน
   • การควบคุมการเข้าถึง: ตรวจสอบว่าระบบอนุญาตให้มีการควบคุมการเข้าถึงตามบทบาทได้อย่างละเอียดเพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและรักษาความถูกต้องของข้อมูล

6. ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ

   • ความซ้ำซ้อน: ระบบดั้งเดิมอาจมีตัวเลือกความซ้ำซ้อนพื้นฐาน ระบบสมัยใหม่มีคุณลักษณะความซ้ำซ้อนขั้นสูง รวมถึงการสลับการทำงานแบบซอฟต์แวร์และสถาปัตยกรรมที่กระจายตัว เพิ่มความน่าเชื่อถือสูงสุด
   • ประสิทธิภาพการทำงานแบบเรียลไทม์: ระบบสมัยใหม่ได้รับการออกแบบมาให้จัดการกับการประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าระบบดั้งเดิม รักษาประสิทธิภาพสูงแม้ในช่วงที่มีการใช้งานสูงสุด

7. ชื่อเสียงของผู้ขายและข้อเสนอแนะจากลูกค้า

   • การอ้างอิงและกรณีศึกษา: ขอการอ้างอิงจากลูกค้ารายอื่นและอ่านกรณีศึกษาเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพในโลกแห่งความเป็นจริงของระบบและความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
   • การสนับสนุนลูกค้า: ประเมินคุณภาพของการสนับสนุนลูกค้า การสนับสนุนที่ไม่ดีอาจนำไปสู่การหยุดทำงานที่ยาวนานและปัญหาในการดำเนินงาน

การเปรียบเทียบระบบ SCADA ดั้งเดิมและสมัยใหม่

1. การติดตั้งและโฮสติ้ง

   • ระบบดั้งเดิม (Genesis64, WinCC): การติดตั้งอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงและต้องใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์ที่สำคัญ มีความซับซ้อนในการกำหนดค่าและขั้นตอนการติดตั้ง
   • ระบบสมัยใหม่ (Ignition, N3uron): การติดตั้งใช้เวลาน้อยกว่า 3 นาทีด้วยความต้องการฮาร์ดแวร์ที่น้อยที่สุด กระบวนการติดตั้งที่เรียบง่ายลดการหยุดทำงานและอนุญาตให้การปรับใช้งานเร็วขึ้น

2. การบันทึกข้อมูลและการผสานรวมฐานข้อมูล

   • ระบบดั้งเดิม: ความสามารถในการบันทึกข้อมูลมักจำกัด มีความซับซ้อนในการผสานรวมกับฐานข้อมูล
   • ระบบสมัยใหม่: มีการบันทึกข้อมูลขั้นสูงและการผสานรวมกับฐานข้อมูลหลายฐานข้อมูลได้อย่างราบรื่น รวมถึงตัวเลือกบนคลาวด์

3. การแสดงผลและส่วนต่อประสานกับผู้ใช้

   • ระบบดั้งเดิม: อาจมีการแสดงผลแบบคงที่และไม่สามารถโต้ตอบได้มาก
   • ระบบสมัยใหม่: มีการแสดงผลแบบไดนามิกผ่านเว็บด้วยแดชบอร์ดที่โต้ตอบได้และการอัปเดตแบบเรียลไทม์ที่เข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์